งานสองเล่มนี้คือ งานที่เขียนขึ้นควบคู่และเป็นฐานให้แก่งานชิ้นสุดท้ายของเขานั่นคือ The Dawn of Everything โดยเขาได้ชี้ให้เห็นว่าการปกครองด้วยระบอบกษัตริย์นั้นไม่ใช่สภาวะพื้นฐานของสังคมมนุษย์ และเป็นเรื่องเข้าใจผิดมหันต์ที่นักวิชาการหลายคนมองว่าระบอบกษัตริย์นั้นเป็นการปกครองที่เข้มแข็งและเป็นระบอบที่รวมศูนย์อำนาจได้เบ็ดเสร็จ แม้ว่าตามทฤษฎีแล้ว กษัตริย์ซึ่งเป็น “องค์อธิปัตย์” จะต้องมีอำนาจในการปกครองแบบเบ็ดเสร็จก็ตามที
กล่าวในแง่นี้ กษัตริย์ในฐานะองค์อธิปัตย์หรือองค์อธิปัตย์ในร่างของกษัตริย์ก็มิใช่บุคคลที่มีอำนาจสัมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มโนทัศน์อำนาจอธิปัตย์หรือ sovereign power เองที่มักจะถูกเข้าใจว่าหมายถึงอำนาจที่แบ่งแยกไม่ได้และสัมบูรณ์ในตัวเองก็ไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่จริง สิ่งเหล่านี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่ออำนาจอธิปัตย์กลายมาเป็นของ “ประชาชน” ในปัจจุบัน
งานสองเล่มนี้คือ งานที่เขียนขึ้นควบคู่และเป็นฐานให้แก่งานชิ้นสุดท้ายของเขานั่นคือ The Dawn of Everything โดยเขาได้ชี้ให้เห็นว่าการปกครองด้วยระบอบกษัตริย์นั้นไม่ใช่สภาวะพื้นฐานของสังคมมนุษย์ และเป็นเรื่องเข้าใจผิดมหันต์ที่นักวิชาการหลายคนมองว่าระบอบกษัตริย์นั้นเป็นการปกครองที่เข้มแข็งและเป็นระบอบที่รวมศูนย์อำนาจได้เบ็ดเสร็จ แม้ว่าตามทฤษฎีแล้ว กษัตริย์ซึ่งเป็น “องค์อธิปัตย์” จะต้องมีอำนาจในการปกครองแบบเบ็ดเสร็จก็ตามที
กล่าวในแง่นี้ กษัตริย์ในฐานะองค์อธิปัตย์หรือองค์อธิปัตย์ในร่างของกษัตริย์ก็มิใช่บุคคลที่มีอำนาจสัมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มโนทัศน์อำนาจอธิปัตย์หรือ sovereign power เองที่มักจะถูกเข้าใจว่าหมายถึงอำนาจที่แบ่งแยกไม่ได้และสัมบูรณ์ในตัวเองก็ไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่จริง สิ่งเหล่านี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่ออำนาจอธิปัตย์กลายมาเป็นของ “ประชาชน” ในปัจจุบัน